วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 6 วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 6 

วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561
เวลา 13:30 - 15: 30 น.


เนื้อหาในการเรียน
     วันนี้อาจารย์ให้ออกมานำเสนอคำคม 3 คน และชื่อตนเองเกี่ยวกับการบริหารเป็นภาษาอังกฤษ ให้นำเสนอต่อให้ครบทุกคน หลังจากนั้นจึงเรียนต่อในบทเรียนต่อไป เรื่อง โครงสร้างขององค์กรและการจัดระบบบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย พร้อมเปิดพ้อยและอธิบายให้นักศึกษาเข้าใจมากขึ้น

ภาพและเนื้อหาการเรียนการสอน
นำเสนอคำคมเกี่ยวกับการบริหาร 




นำเสนอคุณสมบัติผู้นำจากชื่อ 




















เข้าสู่บทเรียน
โครงสร้างขององค์กรและการจัดระบบบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย

การบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
การบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย มีลักษณะการบริหารเฉพาะตัว โดยที่ต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้

-นโยบาย
-ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศของรัฐบาล
-แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
-แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
-พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
-ปรัชญา นโยบายและวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา
-ความต้องการของชุมชน

การจัดประเภท และรูปแบบสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในประเทศไทย
1.การจัดแบ่งตามโครงสร้างการบริหารตามขนาด แบ่งเป็น 3 ขนาด คือ
  1) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดเล็ก
  2) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดกลาง
  3) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดใหญ่

การจัดประเภท และรูปแบบสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในประเทศไทย








การจัดประเภท และรูปแบบสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในประเทศไทย
2. การแบ่งตามรูปแบบตามพระราชบัญญัติการศึกษาชาติ 
(พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 )พ.ศ. 2545 กล่าวไว้ใน มาตรา 15กำหนดการจัดการศึกษา มี 3 รูปแบบ คือ)
-รูปแบบในระบบโรงเรียน
-รูปแบบนอกระบบโรงเรียน
-รูปแบบตามอัธยาศัย

3. รูปแบบการให้บริการแบบใหม่
    คือ การรวมเด็กที่ผิดปกติและเด็กปกติไว้ด้วยกัน โดยเรียกแบบนี้ว่า “Normalization”
หลักในการบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
1. การบริหารงานวิชาการ
  เป็นการบริหารกิจกรรมทุกชนิดในโรงเรียน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงพัฒนาการสอนผู้เรียนให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพที่สุด
2. การบริหารงานบุคคลในสถานศึกษาปฐมวัย
  คือ การปฏิบัติการใช้คนให้ทำงาน อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีขบวนการต่าง ๆ
3. การบริหารงานธุรการและการเงินในสถานศึกษาปฐมวัย
  - งานธุรการในสถานศึกษา
  - งานการเงินในสถานศึกษาปฐมวัย
  - งานสารบรรณในสถานศึกษาปฐมวัย
  - งานทะเบียนและรายงาน
  - งานรักษาความปลอดภัย
  - งานการเงินและพัสดุ
  - งานพัสดุ
4. การบริหารงานกิจการนักเรียนในสถานศึกษาปฐมวัย
    คือ การดำเนินงาน เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมในโรงเรียนโดยนักเรียนสมัครใจร่วมกิจกรรมเพื่อพัฒนาตนเอง
5. การบริหารสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาปฐมวัย
    - การบริหารสภาพแวดล้อมทางกายภาพ
    - การบริหารสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรมและประสบการณ์

การบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในยุคปฏิรูป
ความหมาย การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School Based Management)
    คือ การบริหารโดยกระจายอำนาจทางการศึกษาไปยังสถานศึกษาโดยตรงให้มีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบและความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากที่สุด

-หลักการในการบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน (School Based Management)
-หลักการกระจายอำนาจ (Decentralization)
-หลักการมีส่วนร่วม (Participation or Collaboration Involvement)
-หลักการคืนอำนาจจัดการศึกษาให้ประชาชน ( Return Power to People)
-หลักการบริหารตนเอง (Self - managing)
-หลักการตรวจสอบและถ่วงดุล (Check and Balance)

รูปแบบโรงเรียนที่ใช้การบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน

-ผู้บริหารโรงเรียนเป็นหลัก (Administrative Control School Council )
-บริหารโดยครูเป็นหลัก (Professional Control Council)
-การบริหารจัดการโดยชุมชนมีบทบาท (Community Control School Council)
-ครูและชุมชนมีบทบาทหลัก (Professional Community Control School Council)

         สรุปการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ( School-Based Management )การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School-Based Management) เป็นการถ่ายโอนอำนาจจากหน่วยงานไปให้แก่โรงเรียนได้บริหารแบบเบ็ดเสร็จที่โรงเรียนโดยมอบอำนาจการบริหารและจัดการศึกษาให้แก่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งประกอบด้วยผู้ปกครอง 
องค์กรแห่งการเรียนรู้ 
ศาสตร์ทั้ง 5 ขององค์กรแห่งการเรียนรู้
(ปีเตอร์ เอ็ม. เซงเก (Peter M. Senge)

-การใฝ่ใจพัฒนาตน (Personal Mastery)
-รูปแบบของความคิด (Mental Models)
-วิสัยทัศน์ร่วม (Shared Vision)
-การเรียนรู้เป็นทีม (Team Learning)
-การคิดเชิงระบบ (System Thinking)



การบริหารแบบมีส่วนร่วม

สาระสำคัญของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
-การมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น
-การมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดการยอมรับในเป้าหมาย
-การมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดความสำนึกในหน้าที่ความรับผิดชอบ

ผลดีของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
-สร้างสรรค์ให้มีการระดมกำลังจากบุคคลต่าง ๆ
-สร้างบรรยากาศและพัฒนาประชาธิปไตยในการทำงาน
-ช่วยให้ลดความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารกับผู้ปฏิบัติงาน
-การบริหารแบบมีส่วนร่วม
-ผลงานที่เกิดขึ้น
-สร้างความสมดุลระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายปฏิบัติ

ข้อจำกัดของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
-การแสดงความคิดเห็นเกิดข้อขัดแย้งกับฝ่ายบริหาร
-ก่อให้เกิดกลุ่มอิทธิพล
-ผู้บริหารกลัวสูญเสียอำนาจ
-การบริหารงานไม่สามารถใช้กับงานที่เร่งด่วนได้
-ใช้งบประมาณมาก
-ความคิดเห็นจากบุคคลภายนอกไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร
-การไม่เข้าใจหน้าที่มักจะทำให้เกิดการก้าวก่ายหน้าที่ซึ่งกันและกัน


การวิเคราะห์เชิงปฏิบัติ (SWOT Analysis Workshop)
  คือการวิเคราะห์สำรวจตรวจสอบสภาพภายในองค์กร และสภาพแวดล้อมภายนอก เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวางแผน
S  : จุดแข็ง
W : จุดอ่อน
O  : โอกาส
T  : อุปสรรค

-แต่สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องไม่มองข้ามไปคือ เรากำลังจะเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ ที่อาจจะทำให้บางคนไม่พอใจจากการสำรวจ
-จุดอ่อน:W-จุดแข็ง:Sภายในองค์กร และ
-โอกาส:O-อุปสรรค:Tภายนอก

SWOT ให้คำตอบอะไรกับเรา
1.อะไรคือเรื่องหลักที่เราต้องเผชิญในวันนี้
2.เราจะจัดการกับเรื่องหลักนี้อย่างไร

ข้อสังเกต
-บางคนใช้ SWOT เพื่อตั้งคำถามอย่างเดียว
-บางคนใช้เหตุผลของ SWOT มองข้ามปัญหาไป

เรามาทำความคุ้นเคยกับ SWOT ด้วยกัน
-ถ้าคุณมีภารกิจ ที่จะต้องให้บริการที่มีภาพต่อชุมชน ตรงต่อเวลา ข้อมูลน่าเชื่อถือ และมีภาพพจน์ที่ดี
-มีการกำหนดหน้าที่ และภารกิจให้กับทีมงานทุกคน
-ภารกิจบรรลุเป้าหมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชน ในการเพิ่มมูลค่า(Value Creativity) และคุณค่าความเป็นอยู่ในชุมชนดีขึ้น



จุดแข็ง : Strengths
ตัวอย่าง
-งานที่เราถนัด ทำแล้วมีความสุข
-งานที่โดดเด่นที่ชุมชนชื่นชอบ
-อะไรที่ชุมชนมีความต้องการให้เราทำซ้ำอีก
-ทรัพยากร และเครื่องมือที่เรามีความพร้อม

หมายเหตุ
1.บางทีจุดอ่อนของเรามีความเชื่อมโยงกับจุดแข็ง
2.ยกตัวอย่าง....

นายแดงดี สีใส อ่านหนังสือไม่ออก แต่มีความชำนาญในการสาธิตการกรีดยางพารา

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการวิเคราะห์ประเมินภายในองค์กรสมบูรณ์ครบถ้วน
-ด้วยการมองสภาพแวดล้อมภายนอก แล้วพิจารณาว่า องค์กรของเรามีโอกาสประสบความสำเร็จ จากแผนโครงการพัฒนา ด้วยวิธีการทำงานใหม่นี้หรือไม่



เอาละ! ตอนนี้มาดูสิว่าอะไรน่าจะเป็น

อุปสรรค : Threats
หมายเหตุ
-การมองถึงอุปสรรค T ไม่ใช่ความคิดที่ไม่มีข้อพิสูจน์
-ใช่ว่าเรามองจะโลกในแง่ร้าย มากกว่าโอกาส เพราะว่าเราต้องใช้สรรพกำลังที่มีทำให้งานประสมความสำเร็จ โดยอาศัยปัจจัยด้านอื่นๆอีกสามด้าน คือ SWOT

อุปสรรค : Threats
ตัวอย่าง
-ใครคือคู่แข่งขันที่ทำได้ดีกว่าเรา
-ถ้าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนจะทำให้แผนโครงการเรามีปัญหา
-ความขัดข้องที่จะเกิดจากเราเอง

สุดท้ายเรามาดู โอกาส : Opportunities

โอกาส : Opportunities
-โอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้น ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ
-มีเครื่องมือใหม่ที่ได้รับการสนับสนุน
-มีช่องว่างทางการตลาดที่เรามองเห็น
-เครือข่ายมีศักยภาพทำให้งานสำเร็จง่ายขึ้น

หมายเหตุ
• โอกาสควรที่จะพิจารณาทั้งในระดับมหภาค(ระดับประเทศ ระหว่างประเทศ) และระดับจุลภาค(ระดับครัวเรียน/ระดับหมู่บ้าน/ระดับตำบล)





การประเมิน

ประเมินตนเอง
มาเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบรักษามารยาทในชั้นเรียน  ให้ความร่วมมือโดการตั้งใจฟังเพื่อนนำเสนอและออกไปทำหน้าที่นำเสนองานของตน

ประเมินเพื่อน
เพื่อนแต่งการถูกระเบียบ มาเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนและแสดงความคิดเห็นจดบันทึก  ให้คงามร่วมมืในการตั้งใจฟังและทำหน้าที่นำเสนองานร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

ประเมินอาจารย์
อาจารย์มาสอนตรงเวลา แต่งกายเหมาะสม เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงความคิดเห็นและเสนอแนะเพิ่มเติม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น